คำว่า Service Mindนั้นหมายถึง การมีหัวใจแห่งนักบริการ อันนั้นแปลแบบตามตัวหนังสือนะครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ นักการตลาด หรือ นักขาย; พึงมีด้วยลองไปดูประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมฝากมาให้ อ่านกันครับ เชื่อว่าหลายคนก็คงพบกันมาออกบ่อย ๆ เช่นเดียวกัน ลองไปดูกันครับ
เช้าวันหนึ่งพาลูกไปคอนโดแต่เช้า แว่วมาว่าร้านขายโจ๊กนี้รสชาดอร่อยเหาะ หมูหมักได้ที่ทั้งน้ำซุปที่นำมาต้มโจ๊กนั้นก็หอมหวานเหลือเกิน เวลานั้นก็ราว ๆ เกือบหกโมงเช้าแล้ว ผมก็สั่งซื้อกับน้องลูกจ้างกิตติมศักดิ์ ซึ่งหน้านิ่วคิ้วขมวดประมาณผม น้อง .. โจ๊กหมู พิเศษ ใส่ไข่ ไม่เอาขิง สองถุง ครับ (แน่ะ .. พูดไพเราะเสียด้วย กลัวเจ๊เขาไม่ทำให้)
... เงียบ ... ไม่มีเสียงตอบจากสวรรค์ .. ผมแจ้งออเดอร์น้องซ้ำไปอีกรอบเพราะคิดว่าน้องอาจหรือคงเป็นชาวเมี๊ยนม่าเลย ม่าค่าจาย.. อิทอี๊สสติวเงียบครับพี่น้องครับ ไม่มีเสียงตอบจากสวรรค์เหมือนเดิม .. โอ้แม่เจ้า.. สงสัยได้กินแต่ปลาท่องโก๋กระมังยูแอนด์ไอพ่อลูกงานนี้ .. She แปลว่า เขาผู้หญิง หรือ Super Model อืมไม่ใช่ครับ Super Employee กิตติมศักดิ์ต่างหากครับ She ไม่มีท่าทางสนองตอบแต่อย่างใด ผ่านไป 5 นาที หลังจากที่เธอเริ่มจะทำท่าว่าฉันพร้อมแล้วนะส่วนตัวผมน่ะขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว ให้เจ้าลูกชายตัวแสบยืนรอและจัดการช่วยเหลือตัวเองแล้ว ได้ยินเสียงเจ๊แว่ว ๆ ผ่านทะลุกระจกมาถามลูกชายผมว่า ใส่ไข่รึเปล่า (อ้าว..คนไทยนี่หน่านึกว่าเมี๊ยนม่า ..) ลูกชายพยักหน้าแบบเซ็ง ๆ (โชคดีว่าไม่ถามกลับไปว่าเมื่อกี้พ่อสั่งว่าไง หึงตูอ๊ะเปล่าครับ ไม่งั้นอาจได้กินน้ำข้าวต้มกันแทนนะคร๊าบพ่อลูกสุดเลิฟ .. ฮา)
ตัดภาพมาที่คอนโด ผมกำลังเทโจ๊กออกจากถุงให้เจ้าลูกชายเหลือบไปเห็น ขิง ครับ (เมื่อกี้สั่งไม่ใส่ขิง) แล้วที่ทำมาก็เป็นแบบ ธรรมดา (เมื่อกี้สั่งพิเศษ) โอ..Godddd ที่สั่งซื้อไปน้องเผือกไม่เข้าใจเลยและทำผิดหมดเลยทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องง่าย ๆ คือแค่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น ผมอุทานออกมาแบบเสียมิได้ แต่ก็กินโจ๊กมือนั้นจนหมดเกลี้ยงเพราะมันอร่อยเหาะ หลังจากวันนั้นก็พยายามอดทนกลับไปอุดหนุนน้องเขาใหม่ แน่นอน .. น้องยังคงรักษา คา-แร็ก-เตอร์ ภาพลักษณ์เดิม ๆ ไว้ได้ไม่เสื่อมคลาย เลยถอดใจยอมแพ้แม้ว่าจะ อร่อยเหาะ ก็ตามที
อีกร้านหนึ่งขายข้าวหมูแดงกับบะหมี่ คงไม่บอกว่าย่านไหนเพราะบอกไปนี่รู้กันเลย เดี๋ยวเป็นไม่ดีครับ ร้านนี้ อร่อยเหาะ เหมือนกัน เดินเข้าร้านน้องข้าวหมูแดงพิเศษเพิ่มไข่ ลูกน้องกิตติมศักดิ์เดินมากวักมือ เข้าไปนั่งก่อนแบบเซ็ง ๆ เดี๋ยวไปรับออเดอร์ที่โต๊ะ หน้าเราคงประมาณกระเหรี่ยงหลังเขาโงลังกั๋ง น้องเผือกไล่เราเข้าร้านเหมือนเกณฑ์สุกรเข้าคอกประมาณนั้น อร่อยได้ใจจริง ๆ ให้ดิ้นตายเถอะพี่น้อง เถ้าแก่กล้ามโตรับตังค์เสร็จไม่มีขอบคุณลูกค้าแม้แต่รายเดียว ขยันจดออเดอร์อย่างเดียว บนเพดานมีสโลแกนเล็ก ๆ เขียนว่า ท่านมาอุดหนุนเราดีใจ ท่านกลับบ้านไปเราคิดถึง อยู่ตรงหน้าแท้ ๆ ท่านยังต้อนลูกค้าเข้าร้านเหมือนสุกรเข้าคอกไม่ปาน เดินออกจากร้านไม่มีแม้คำขอบคุณให้แก่ผู้ใด เพราะไผก็ต้องง้ออั้วเพราะร้านอั้วทำอร่อยหรือไม่จริงบ่องตง..(ฮา) ไม่ต้องหวังว่าท่านจะคิดถึงดอก กินข้าวหมดก็ต้องรีบเช็คบิลเพราะเฮียขยับกล้ามเขม่นอยู่ (เมื่อไรมันจะลุกสักทีคนอื่นจะได้นั่งต่อ ต้องทำเวลา ๆ กินเร็ว ๆ ทานเร็ว ๆ ..ฮา) ได้เพลารีบไสลำตัวที่เต็มไปด้วยไขมันเยิ้มๆ อันเกิดจากข้าวหมูแดงของเฮียของจากร้านโดยพลัน
ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้การค้าการขายบ้านเราการกล่าวคำ ต้อนรับ หรือคำว่า ขอบคุณ นี่หายไปไหนมันเหมือนกับเช้ามาเราไปทำงานแล้วทำให้มันจบ ๆ ไป ไม่ต้องสนใจในตัวลูกค้าก็ได้เพราะเป็นการแลกเปลี่ยนกัน เอาเงินไปเอาของมา; ไม่มีบุญคุณต่อกัน เขาคิดกันแบบนั้นหรือเปล่าไม่อาจทราบได้แต่ทุกวันนี้มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ (ท่านคงไม่ปฏิเสธ) คือมันเป็นกันทั้ง Owner แล้วก็ Labor เลยนะครับเดี๋ยวนี้ อยากให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นสักครั้งในชีวิตแล้วนำเอาวิถีในการบริการบางอย่างกลับมาพัฒนาบ้านเกิดและธุรกิจของตนเหมือนกัน ที่นั่นท่านไปอุดหนุนสินค้าเขาถึงร้านเวลาท่านกลับทั้งเจ้าของทั้งผู้จัดการเขามายืนส่งท่านถึงหน้าบ้านจนท่านลับสายตา
มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกจะเป็นแบบไหน.. นักขายคนแรก .. เขาคิดแบบนี้ (ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้) มนุษยสัมพันธ์ไม่ดี หน้าบึ้ง หยิ่งยโส คิดเอาเองว่าสินค้าของตนดีกว่าผู้อื่น ทุกวันนี้สินค้ามันขายดีมาก ๆ ขายดีเหลือเกิน ทำยังไงก็ไม่ทันขาย ไม่ต้องเอาใจใส่ลูกค้าหรอก ไม่ต้องกล่าวคำขอบคุณ ยังไงลูกค้าก็ต้องง้อเรา จะซื้อก็ได้ไม่ซื้อก็ดี ไม่เดือดร้อนแบบว่ารวยฟ้าผ่าแล้วครับไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แบบว่าไม่ง้ออ่ะ พี่ขั้นเทพแล้วอ่ะน้อง
นักขายอีกคนหนึ่ง .. เขาคิดอีกแบบ (ส่วนน้อยเป็นแบบนี้) มนุษยสัมพันธ์ดีมาก หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวคำต้อนรับและเชื้อเชิญลูกค้าเป็นอย่างดี คิดเสมอว่าอาชีพมีน้อยคนมีเยอะ คนขายของเหมือนกันเยอะ การแข่งขันสูง ต้องบริการลูกค้าให้ดีดี ต้องเอาใจใส่ลูกค้า อยากได้อะไรหามาให้ (อันนี้เป็นวิธีการคิดขั้นพื้นฐานของพ่อค้าชาวจีนโพ้นทะเลเลยนะ) กล่าวคำขอบคุณเสมอและเคารพลูกค้าเสมอ เรานั่นล่ะคือฝ่ายที่ต้องคอยสอบถามลูกค้าและดูแลลูกค้าและลูกค้านั่นล่ะคือผู้ที่ค้ำจุนและส่งเสริมให้องค์กรของเราเติบโตขึ้น ไม่ใช่ Barter System เหมือนที่สมัยก่อน ๆ เราคิดกัน
บางครั้งการค้าก็ถูกจำกัดด้วยเรื่องง่าย ๆ (ขอขอบคุณ: คำพูดประโยคนี้ของคุณนิรันดร์ ศรีสมบัติ)
Case Study: อยากได้อะไรหามาให้ อีกหนึ่งวิธีคิดของพ่อค้าชาวจีนโพ้นทะเลเมื่อ 50 ปีที่แล้ว
ผมมีลูกค้าเป็นโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารนมชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยปกติเขาจะสั่งซื้อสารทำความเย็น R22 ผมพยายามเข้าไปขายที่โรงงานแห่งนี้เป็นเวลาเกือบ 10 ปี จนภายหลังถึงไ้ด้เข้าไปเป็น Vendor ประจำที่นี่ วันหนึ่งฝ่ายจัดซื้อเล็งเห็นว่าเรามีบริการที่รวดเร็วและมีราคาพอเหมาะ เขาจึงสั่งให้เราจำหน่ายอะไหล่เครืองทำความเย็นให้แก่เขาด้วย (ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วเราไม่มีความชำนาญเรื่องอะไหล่เครื่องทำความเย็นเลย)
แต่เมื่อลูกค้ามีความต้องการผมจึงได้ปรึกษาและให้เพื่อนร่วมงานได้สืบค้นและหาข้อมูลของอะไหล่เครื่องทำความเย็นหลากชนิดที่ลูกค้าสอบถามเข้ามา จนท้ายสุดสามารถจัดหาอะไหล่ที่ลูกค้าต้องการ (และมีคุณภาพดีเยี่ยม) จำหน่ายให้แก่ลูกค้ารายนี้ได้เป็นผลสำเร็จ แน่นอนผมมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ใช่แต่เพียงแค่การจำหน่ายน้ำยาแอร์อันเป็นอาชีพหลัก แต่ผมสามารถสร้างรายได้ขึ้นมาอีกเล็กน้อยจากการจัดเตรียมอะไหล่แบบครบวงจรนี้ให้แก่ลูกค้าของผมในราคาที่ย่อมเยากว่าและดีกว่าด้วยเวลาส่งมอบที่รวดเร็วกว่า
ขอขอบคุณบทความ: อยากได้อะไรหามาให้ จากหนังสือชีวิตจริงมหาเศรษฐีจีนโพ้นทะเล ของท่านอาจารย์บุญชัย ใจเย็น
Jackie Blue
www.blueplanet.co.th