หน้าแรก > สตาร์เกท

R22 กับสารทดแทน ปี พ.ศ.2559

Buranin Industry Co., Ltd. หรือ Blue Planet ปฏิวัติอุตสาหกรรมสารทำความเย็น BPX4400 และ BPX5500 สุดยอดสารทดแทน R22 ขึ้นมาในอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศชนิด HFCs Azeotrope Gas ช่วยแก้ปัญหาในเรื่อง Composition Shift ได้อย่างถาวรและใช้ทดแทนในระบบ R22 แบบไร้ข้อกังขาโดยในวันนี้เราจะมาทำการเปรียบเทียบสารทำความเย็น BPX4400 กับสารทดแทน R22 ที่มีอยู่อย่างมากมายในตลาดขณะนี้กันนะครับ

BPX4400 เมื่อเปรียบเทียบกับ R407c
R407c นั้นมักมีปัญหาในเรื่องของ Composition Shift สูงมากและยุ่งยากในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันคอมฯ จาก MO เป็น POE รวมถึงงานซ่อมบำรุงที่ Top UP ไม่ได้ R407c ต้องทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาแอร์ออกแล้วเติมใหม่ทั้งระบบทุกครั้งที่มีการรั่วซึมเกิดขึ้นจึงสร้างปัญหาภาวะโลกร้อนให้เกิดขึ้นทางอ้อม แม้ว่าคุณไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นก็ตามที แต่บีพีเอ็กซ์ 4400 นั้นยอมให้ระบบรั่วได้แต่ต้องไม่เกิน 15% แล้วสามารถเติมน้ำยาชดเชยเพิ่มเข้าไปได้จึงช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า

BPX4400 เมื่อเปรียบเทียบกับ R424a
ปริมาณสารประกอบที่ดูวุ่นวายและมีมากถึง 5 ชนิดใน R424a การเลือกใช้ BPX4400 ช่วยแก้ปัญหาเรื่อง Composition Shift ใน R424a ได้ยอดเยี่ยมกว่าเช่นเดียวกับการแก้ปัญหาเหล่านี้ใน R407c มันไม่มีไอโซเพ็นเทน หรือ R601a เป็นส่วนประกอบเหมือน R424a ซึ่ง R601a นี้มีจุดเดือดในแดนบวกเท่ากับ +27 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดการตกค้างของน้ำยาเหลวที่คอมเพรสเซอร์ทำให้คอมเพรสเซอร์เกิดการสึกหรอได้ง่ายอีกด้วย
BPX4400 ยังมีต้นทุนที่ถูกกว่า R424a อย่างน้อยก็ราวกึ่งหนึ่ง คุณจึงประหยัดเงินลงทุนได้มากกว่า

BPX4400 เมื่อเปรียบเทียบกับ R417a
มันให้ Capacity มากกว่า R417a เพราะมีส่วนประกอบของสารเพิ่มความสามารถในการแลกเปลี่ยนความร้อนที่มากกว่า BPX4400 มีอะตอมของ Fluorine ที่สูงกว่ามันมันจึงเหนือชั้นกว่า R417a และมี Capacity ที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทว่าการบริโภคกระแสไฟฟ้านั้นอาจมากกว่า R417a เพียงเล็กน้อย (ตามทฤษฎี) แต่ประหยัดได้มากกว่า R22 มากมาย

BPX4400 เมื่อเปรียบเทียบกับ R427a
สารทำความเย็นจากค่ายฝรั่งเศสชนิดนี้มีส่วนประกอบยุบยับเหมือน R424a หากพูดถึงการซ่อมบำรุงแล้ว BPX4400 ทำให้มันสามารถ Top Up ได้ง่ายกว่า R427a ซึ่งมีสารประกอบถึง 4 ชนิด Handling ง่ายกว่าในการซ่อมบำรุง BPX Series เกือบเหมือน R410a เพราะเป็นการผสมผสานหลักการหว่าง Azeotrope และ Blended ร่วมกัน โดยนำข้อดีของ Azeotrope ใน R410a มาพัฒนาอีกขั้นหนึ่งเพื่อให้สามารถใช้กับ Existing Equipment อย่าง R22 โดยที่ BPX4400 (ใช้กับน้ำมันคอมฯ ชนิด MO) ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเป็น BPX5500 (ใช้กับน้ำมันคอมฯ ชนิด POE) ในภายหลัง ทำให้มันเกือบเหมือนกับฝาแฝดของ R410a เลยทีเดียว

BPX4400 เมื่อเปรียบเทียบกับ R431a
BPX4400 นั้นไม่มีส่วนผสมของสารติดไฟเหมือนคู่แข่งจากเกาหลีเดอะ R431a ชนิดนี้ซึ่งจัดอยู่ใน Class A3/A2 แม้ทางฝั่งเกาหลีพยายามจะบอกโลกว่าฉันคือกระจกเงาของ R32 ก็ตาม แน่นอนในเรื่องของการประหยัดพลังงานและการลดภาวะโลกร้อนนั้นก็เป็นจุดขายที่ดีที่สุดแต่เรื่องความปลอดภัยนั้น BPX4400 ทำได้ดีกว่าเพราะอยู่ในคลาส A1 จึงปลอดภัยมากกว่า

BPX4400 เมื่อเปรียบเทียบกับ R290
>ตอบได้เลยว่าอยู่คนละฝั่งกันเลย อยู่กันคนละข้างเลยครับ มีเรื่องเดียวก็คือ ODP=0 เหมือนกันคือไม่ทำลายชั้นบรรยากาศเหมือนกัน R290 เน้นไปในเรื่องของการลด GWP และช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่า 30% และมากยิ่งกว่า R431a ของแดนโสม ราคาที่ค่อนข้างสูงมากและจุนทศวรรษที่ผ่านมาเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในเวลาต่อมา

บางหน่วยงานแจ้งว่า BPX4400 สามารถประหยัดพลังงานได้ถึงร้อยละ 10-15% และ 15-25% สำหรับ BPX5500 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเครื่องปรับอากาศแต่ละชนิดแต่ละรุ่น

BPX4400 แก้ไขและลบข้อด้อยด้านต่าง ๆ ในด้านเคมีจากน้ำยาแอร์ในกลุ่ม Series 400 ต่าง ๆ มันถูกวิเคราะห์ในเชิงอุปสงค์และอุปทานว่ามีราคาสมเหตุสมผลที่สุด ช่วยลดภาวะโลกร้อนซึ่ง matching กับ ISO 14000 และ 18000 ช่วยประหยัดพลังงานซึ่งช่วยให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องสนใจได้ประหยัดงบประมาณและรายจ่าย ทำให้เจ้าของ Project ได้รับรางวัลผลงานดีเด่นกันไปหลายต่อหลายแห่ง

BPX4400 ไม่ใช่สารติดไฟซึ่งทุกโรงงานก็ต้องการด้านความปลอดภัยจัดอยู่ในกลุ่ม A1 แน่นอนมันมี GWP สูงกว่าสาร HydroCarbon เพราะมันคือ F-Gas (สารทำความเย็นที่มีส่วนผสมของ Fluorine) แต่อย่างน้อยใน 10 ปีนี้ถ้าคุณยังหาสารทดแทน R22 ที่ให้ Capacity ได้ดีเท่ามาทดแทนไม่ได้ เรื่อง GWP ยังเป็นอะไรที่คนในยุคหน้าต้องขบคิดหาทางเลือกกันต่อไป

ศึกสายเลือดระหว่าง HFCs และ HCs จะยังคงมีต่อไปในยุคที่ลูกของคุณเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่ BPX4400 จะเป็นหนึ่งในไม่กี่ทางเลือกสำหรับระบบเครื่องปรับอากาศ R22 ที่ยังคงใช้งานได้และอยู่ยงคงกระพันจนเครื่องปรับอากาศระบบ R22 จะหมดไปจากแผ่นดินนี้ เมื่อเวลาหนึ่งในไม่ช้าสารต้องห้ามอย่าง R22 จะถูกควบคุมและราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นจนทวีคูณ คุณจำเป็นต้องสืบค้นหาสารทดแทนผ่านอาจารย์กู๋และตัวเลือกสุดท้ายนั้นอาจเป็น BPX4400 ก็ได้ครับ 

ก่อนวาระสุดท้ายที่เครื่องปรับอากาศระบบเดิมหรือ R22 จะหมดไปและก้าวเข้าสู่ยุคที่ R410a หรือ R32 ครองบัลลังก์เครื่องปรับอากาศอย่างถาวร ช่วงนี้จึงเป็นช่วงของศึกชิงจ้าวยุทธจักรสำหรับสารทดแทน R22 ที่ใช้สำหรับเครื่องปรับอากาศ R22 อย่างแท้จริง BPX4400 เป็นสินค้าที่คิดค้นและประดิษฐ์โดยมันสมองของคนไทยและเป็นสินคาที่จดอนุสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วน R410a กับ R32 ก็เป็นอีกการแข่งขันที่น่าติดตามไม่แพ้กันเลยทีเดียวครับ

บทสรุป: BPX4400 คือความเพียรพยายามอย่างยิ่งยวดตลอดระยะเวลา 8 ปี ของข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมงานหลายสิบชีวิต ตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2549 จนถึงปัจจุบัน เราได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการพัฒนาสารทำความเย็นที่ดีที่สุดซึ่งสามารถใช้ทดแทนในระบบ R22 ให้สังคมไทยได้มีสารทดแทน R22 ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานและลดภาวะโลกร้อน

ให้ท่านใช้เครื่องปรับอากาศเครื่องเดิมต่อไปได้จนกว่าจะพังกันไปข้างหนึ่ง เราคาดหวังว่าสารทำความเย็น BPX4400 ชนิดใหม่นี้ต้องสามารถทำความเย็นได้ดีที่สุดและต้องประหยัดพลังานอย่างน้อย 15-20%, ต้องไม่ทำลายชั้นโอโซน, ต้องคืนทุนแก่ผู้ตัดสินใจเลือก Retrofit ได้เร็วที่สุด,? ต้องซ่อมบำรุงง่ายที่สุด,? ต้องไม่ลุกติดไฟและปลอดภัยตามมาตรฐานชีวอนามัยขั้นสูงสุด, ต้องไม่สร้างความเสียหายแก่ระบบเครื่องปรับอากาศและสิ่งแวดล้อมโดยรวม, ต้องมีราคาจัดจำหน่ายที่สมเหตุสมผลสร้างกำไรพื้นฐานให้แก่ผู้จำหน่ายและผู้ประกอบการรวมถึงผู้บริโภคคนสุดท้ายได้อย่างคุ้มค่าที่สุด, ต้องไม่เป็นสินค้าที่ผูกขาดผู้บริโภคมีทางเลือกที่จะเปลี่ยนไปใช้สารทำความเย็นหรือสารทดแทนชนิดอื่นเมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการได้เสมอโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและไม่มีขั้นตอนอะไรซับซ้อน, ต้องมีการรับประกันแก่ผู้บริโภคที่ครอบคลุมมากที่สุด, มีการกำหนดราคากลางในการจัดจำหน่ายอย่างเหมาะสมชัดเจนเพื่อลดปัญหาการคอรัปชั่นในองค์กรต่าง ๆ ให้น้อยลงมากที่สุดจนถึงไมมีเลย

ถ้าคุณกำลังมองหาสารทดแทน R22 เราอยากให้คุณทดลอง BPX4400 เพื่อเปรียบเทียบกับสินค้าชนดอื่นในตลาดดูครับ ลองเปรียบเทียบความสามารถในการทำความเย็นว่าเทียบเท่า R22 ที่คุณใช้อยู่หรือไม่ ลองเปรียบเทียบว่ามันประหยัดพลังงานกว่ากันหรือไม่ และสุดท้ายลองเปรียบเทียบราคาและปริมาณการใช้งานว่า BPX4400 ใช้น้ำยาน้อยกว่าหรือไม่ เพียงเท่านี้ท่านก็จะตัดสินใจได้ว่าท่านควรเลือกสารทำความเย็นชนิดใดมาอยู่ประจำบ้านของท่าน สำหรับเราเรามั่นใจว่าท่านต้องพึงพอใจกับผลงานการทดสอบจากหลายสถาบันของเราเพื่อความเชื่อมั่นในการลงทุนในครั้งนี้ของท่านครับ