วันนี้พาเพื่อน ๆ มาแวะดู History ของ R11 หรือ F11 กันนะครับ
R = Refrigerant
F = Freon
ยุค CFC11 ครองเมือง
ดูปองท์เป็นรายแรกที่ผลิตสารทำความเย็นขึ้นในโลกของเรา R11 ก็เกือบจะเรียกได้ว่าเป็นสารทำความเย็นในลำดับต้น ๆ ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าสามารถนำไปใช้ทำความเย็นใน Chiller และในงาน Flushing หรือล้างระบบภายในเครื่องทำความเย็นได้ รวมถึงธุรกิจผลิตโฟมผนังห้องเย็นที่เราเห็นกันดาษดื่นTrade mark ของ DuPont คือ Freon 11 (อ่านว่า ฟรีออน 11)
R11 เป็นชื่อเรียกที่เป็นสากลย่อมาจากคำว่า Refrigerant 11 (อ่านว่า ริฟริจเจอแรนท์ 11) หรือสารทำความเย็น R11 พอดูปองท์ทำตลาดเป็นเจ้าแรกเราก็พากันเรียกทับศัพท์กันว่า ฟรีออน 11 เรียกไปเรียกมากลายเป็น เอฟ11 ครับ แต่มีความหมายเหมือนกันกับ อาร์11 คือเรียกตัวย่อนำหน้าเลย แต่ถ้าจะเรียกให้เป็นสากลหน่อยคงจะต้องเรียกว่า R11 ครับR11 เป็นสาร CFC เขาก็เรียกอีกชื่อว่า CFC11
ยุคเฟื่องฟูของ HCFC141b และ HCFC123
ต่อมา R11 ต้องปิดสายพานการผลิตลงในปี ค.ศ.1996 จึงมีสารทดแทนเป็นสารที่ ทำลายชั้นโอโซนน้อยกว่า 10 เท่าเรียกว่า HCFC141b หรือ R141b เข้ามาแทนที่ซึ่งถูกใช้งานในภาคของ Flushing Agent หรืองานล้างระบบแอร์และเครื่องทำคามเย็น ส่วน R123 หรือสาร HCFC123 ก็ถูกนำมาใช้แทน R11 ในส่วนของเครื่องทำความเย็นขนาดใหญ่หรือระบบ Chiller นั่นเองครับ
แต่ R123 ไม่เป็นที่นิยมในการนำมาล้างทำความสะอาดภายในระบบแอร์เสียเท่าไร เพราะมีความเป็นพิษสูงกว่า R141b มากคือมีความเป็นพิษที่ระดับ 10 ppm หรือเป็นพิษมากกว่ามาตรฐานความเป็นพิษถึง 40 เท่าตัว การพิจารณาเลือก R123 ในชิลเลอร์จึงต้องวางแผนเรื่องของระบบระบายอากาศให้ดี เพราะไม่มีสีไม่มีกลิ่น
ยุคใหม่ของ HFC245fa
สารทดแทนที่จะเข้ามามีบทบาทในธุรกิจชิลเลอร์, โฟม และงานล้างระบบเครื่องทำความเย็น การบ้านคือราคาที่สูงลิ่วของ HFC245fa คือสิ่งที่คนทั่วโลกไม่ปรารถนา มีความเป็นไปได้สูงมากที่ผู้คนจะยอมทนและหันมาใช้ Methylene Chloride ในงานล้างและไล่ระบบเครื่องทำความเย็นและเครื่องปรับอากาศกันอย่างเต็มรูปแบบ อันหมายถึงจะมีผู้คนจำนวนหนึ่งใน กลุ่มงานล้างระบบนี้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง
มาถึง History ของ น้ำยาล้างระบบบรรจุขวด R11 Alternative ของ Blue Planet กันบ้าง
ราวปี ค.ศ.2000 ได้มีผู้ค้าคนไทย ซึ่งผมไม่ทราบจริง ๆ ว่าใครเป็นรายแรกที่คิดนำ R11 มาบรรจุใส่ขวดแก้วขายตามร้านอะไหล่แอร์นะครับ มาภายหลัง R11 หาสินค้าได้ยากจึงใช้ R141b มาแทน แต่ปัจจุบันสินค้าที่จำหน่ายในร้
ยุคแห่งความสับสนของสารทดแทน R141b จึงเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริง ๆ เพราะ
R245fa / R365mfc มีราคาแพงเกินไป, เป็นสินค้าลิขสิทธิตัวแทนน้อยไม่มีการสต็อกสินค้าไว้ใน Local ต้องสั่งนำเข้าอย่างเดียวและความสามารถในการผลิตโฟมก็ยังไม่ดีเทียบเท่า R141b ต้องนำไปผสมกับสารอีกชนิดหนึ่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
R141b ก็มีคุณสมบัติที่ดีแม้จะเทียบกับ R11 ไม่ได้ก็ตามแต่ก็ดีที่สุดในเวลานี้ การถูกจำกัดการนำเข้าเพราะมีค่า ODP ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่งเพื่อหาสารทดแทนชนิดใหม่ที่ไม่ทำลายโอโซน เรียกว่าถ้าเกิดมาเป็นเหมือน R134a เลยคือเกิดมาเป็น HFCs แล้วแทนที่ R12 แบบนั้นเลยปัญหาการยกเลิกและระงับการใช้ก็จะไม่เกิดขึ้่น น่าเสียดายที่ R141b เกิดมาเป็น HCFCs ไม่ใช่ HCFCs จึงต้องลาวงการไปพร้อม ๆ กับ R22 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Methylene Chloride ถ้านำไปล้างระบบแอร์ก็ดีเกินไป ท่อทองแดง, อลูมิเนียม ถูกกัดกร่อนมากกว่า R141b จุดเดือดใกล้เคียงกันกับ R141b จึงไม่แปลกที่ผู้ใช้งานนิยมชมชอบ ราคาถูกเหมือนได้ฟรีกิโลกรัมละ 15-20 บาท แต่เป็นสารก่อมะเร็งชนิดสะสม (Chronic)
ในมุมมองของเรา การลดและเลิกการใช้สาร CFCs และ HCFCs เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างยิ่งยวดเพื่อ ลดภาวะโลกร้อน" ทว่า ผู้นำท้องถิ่นและผู้ปกครองระดับโลก ควรมองหาทางออกให้ผู้ผลิตและใส่ใจเรื่ีองสารทดแทนกันอย่างจริงจังด้วย การมีสารทดแทนที่ดี และ มีคุณสมบัติที่ดี นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่การขายสินค้าในราคาที่ ไม่ปรานีปรานอม จะช่วยรณรงค์ให้ผู้คนลดภาวะโลกร้อนได้อย่างไร ในเมื่อเศรษฐกิจครัวเรือนยังตั้งไข่ไม่ได้ .. ชาวบ้านเขาไม่ซื้อดอกครับ เขาจะมองหาสารทดแทนที่ใกล้เคียงที่สุด ถูกที่สุด ดีที่สุด เพื่อให้งานนั้น ๆ ผ่านพ้นไปได้แม้เขาต้องเสี่ยงกับภาวะความเป็นพิษก็ตาม อย่างน้อยก็ให้อยู่รอดต่อไปให้ได้อีกหนึ่งวันในภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองเช่นนี้ คำถาม ๆ ว่า ท่านต้องการลดภาวะโลกร้อนจริง ๆ หรือ คำว่าลดภาวะโลกร้อนในใจมันคือ Mask ตัวหนึ่งที่ใช้อำพรางผลประโยชน์หมื่นล้านกัน ..
Jackie Blue
www.blueplanet.co.th
09.10.2014