R448a ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ดีกว่า R507 จริงหรือ?


สำหรับตู้แช่ระบบ Very Low Temp ในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำขณะนี้หลายท่านคงคุ้นเคยดีกับสารทำความเย็น R404a และ R507 วันนี้ Jackie ก็เลยมีบทความดีดีมาแนะนำพวกเรากัน ส่วนจะเชื่อหรือไม่นั้นขอให้ท่านผู้อ่านได้ใช้ดุลพินิจของแต่ละท่านพิจารณากันดูนะครับ

R507
Total GWP: 3985
ส่วนประกอบที่หนึ่ง R125 ร้อยละ 50 จุดเดือด -48.5 องศาเซลเซียส ODP = 0 และ GWP = 3500 เท่าของคาร์บอนไดออกไซดส่วนประกอบที่สอง R143a ร้อยละ 50 จุดเดือด -47.7 องศาเซลเซียส ODP = 0 และ GWP = 4700 เท่าของคาร์บอนไดออกไซด์

R448a 
Total GWP: 1387
ส่วนประกอบที่หนึ่ง R32 ร้อยละ 26 จุดเดือด -52.1 องศาเซลเซียส ODP = 0 และ GWP = 675 เท่าของคาร์บอนไดออกไซด์
ส่วนประกอบที่หนึ่ง R125 ร้อยละ 26 จุดเดือด -48.5 องศาเซลเซียส ODP = 0 และ GWP = 3500 เท่าของคาร์บอนไดออกไซด์
ส่วนประกอบที่หนึ่ง R134a ร้อยละ 21 จุดเดือด -26.3 องศาเซลเซียส ODP = 0 และ GWP = 1470 เท่าของคาร์บอนไดออกไซด์
ส่วนประกอบที่หนึ่ง R1234yf ร้อยละ 20 จุดเดือด -29.0 องศาเซลเซียส ODP = 0 และ GWP = 4 เท่าของคาร์บอนไดออกไซด์
ส่วนประกอบที่หนึ่ง R1234ze ร้อยละ 7 จุดเดือด -19 องศาเซลเซียส ODP = 0 และ GWP = 7 เท่าของคาร์บอนไดออกไซด์

บทวิเคราะห์แบบหมัดต่อหมัด:

R507:
มีส่วนประกอบน้อยกว่า R448a คือมีส่วนผสมจากสารประกอบเพียง 2 ชนิดที่มีจุดเดือดใกล้เคียงกัน R125 (เริ่มเดือดเป็นไอที่ -48.5 c), R143a (เริ่มเดือดเป็นไอที่ -47.7 c) จับตัวกันได้ดีเยี่ยมที่อุณหภูมิ -40 c จึงเป็นสารทำความเย็นกลุ่ม AZEOTROPE ที่มีอัตราการระเหยของน้ำแก๊สในระบบใกล้เคียงกันมากหรือสารประกอบทั้งสองแทบจะระเหยพร้อม ๆ กัน เมื่อระบบแอร์มีการรั่วไหลเกิดขึ้นจึงสามารถเติมน้ำยาเพิ่มเพื่อชดเชยรั่วได้ทันทีโดยไม่ต้องทำการ Vaccuum ระบบทำให้ไม่สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายอีกทั้งค่าการสร้างภาวะเรือนกระจกก็แปรผันต่อปริมาณการรั่ว (จริง) อีกด้วย อาทิ ค่า GWP = 3985 เท่ามองว่าสูงจริงแต่เมื่อระบบเกิดการรั่วไหลเพียง 20% ค่า GWP ต่อมวลที่เท่ากันจึงเป็น 3985 เท่า x 20% ของมวลสารที่รีั่วออกสู่ชั้นบรรยากาศ = GWP 797 เท่าของคาร์บอนไดออกไซด์หรือ Co2 ราคาน้ำยาแอร์ R507 ถูกกว่า R448a เท่ากับ 6 เท่าตัวเมื่อจำหน่ายถึง Owner ซุปเปอร์มาร์เก็ตคนสุดท้ายที่จ่ายสตางค์

R448a: 
มีส่วนประกอบมากกว่า R507 และอยู่ในกลุ่มสารผสมเรียกว่า ZEOTROPE (ถ้าใช้สารประกอบหรือน้ำยาเพียงสองชนิดประกอบกันรวมเรียกว่า AZEOTROPE) R448a มีจุดเดือดต่างกันในทุกย่านของสารประกอบ ตั้งแต่ R32, R125, R134a, R1234yf, R1234ze (ลองดูที่ตาราง) เป็นการพัฒนาจากการประดิษฐ์ของ R407f ที่ใช้ส่วนประกอบคือ R32 (30%), R125 (30%), R134a (40%) มันลดปริมาณของ R32 และ R125 ในสัดส่วนที่เท่ากันคือลดลงฝั่งละ 4% รวมแล้วคือ 8% สังเกตดูว่า Ratio ในการคำนวณคล้ายคลึงกับ R407f ที่เคลมว่านำมาใช้แทน R404a ในระยะ 5 ปีหลังนี้ แล้วปรับลด R134a ลง 19% จากนั้นชดเชยด้วย R1234yf ที่มีจุดเดือดใกล้เคียงกับ R134a (-26 c) ด้วย R1234yf (-29 c) เข้าไปแทนที่ 21% และเพิ่ม R1234ze ขึ้นมา 7% อัตราส่วนนี้จึงคล้ายคลึงกับ R407f มาก ทว่าการลดภาวะเรือนกระจกหรือ GWP จึงลดระดับลงเพราะคุณสมบัติของ HFO1234yf และ HFO1234ze โดยตรง เมื่อระบบมีการรั่วไหล อัตราส่วนของสารประกอบทั้ง 5 ชนิดมีจุดเดือดไม่เท่ากันการรั่วออกจากระบบส่วนใหญ่เป็นของเหลว มันจะแยกตัวกันระเหยออกจากระบบ ทำให้ระบบมีอัตราส่วนที่ไม่คงที่ และทำให้เกิด Composition Shift (การเบี่ยงเบนของแรงดันไอในน้ำยาแอร์ซึ่งเกิดจากการรั่วไหลออกจากระบบอันส่งผลให้ความสามารถในการทำความเย็นไม่คงที่ไม่เสถียร) จากนั้นคุณจะต้องปล่อยก๊าซเรือนกระจกนี้ออกสู่บรรยากาศทั้งหมดแล้วทำการบรรจุก๊าซหรือน้ำยาแอร์ชนิดนี้เข้าสู่ระบบใหม่อีกครั้งทั้งนี้ GWP = 1273 เท่าของคาร์บอนไดออกไซ์ การรั่วเพียง 20% ก็ต้อง Re-Install น้ำยาแอร์ใหม่หมด 100% จึงคำนวณได้ว่า 1273 เท่า x 100% = GWP 1273 เท่าของคาร์บอนไดออกไซด์หรือ Co2 ราคาน้ำยาแอร์แพงกว่า R507 ถึง 6 เท่าเมื่อจำหน่ายถึง Owner ซุปเปอร์มาร์เก็ตคนสุดท้ายที่ต้องจ่ายสตางค์

เคล็ดลับนี้ผมค้นพบโดยบังเอิญและมีคำถามจากเพื่อน ๆ มาว่า "เมื่อรู้แบบนี้แล้วทำไมเมื่อยุค 20-30 ปีก่อนหน้าจึงได้บอกกันไว้ว่า .. ถ้าระบบ R507 หรือกลุ่มสารผสมเหล่านี้เมื่อระบบรั่วในซุปเปอร์มาร์เก็ตรั่วต้องดูดหรือปล่อยน้ำยาออกจากระบบทำ Vaccuum แล้วเติมน้ำยาใหม่ล่ะ?" คำตอบของคำถามนี้มันอยู่ในใจของทุก ๆ คนแล้วนะครับผมคงไม่ต้องบรรยายอะไรอีกและวันนี้ถ้าพวกเราต้องการรณรงค์เพื่อลดภาวะโลกร้อนกันจริงจัง คงต้องเลิกเอากระดาษหรือตัวหนังสือมาสับขาหลอกกันแต่ควรเอาความจริงมาบอกประชาคมโลกครับ 

Written by Jackie Blue
www.blueplanet.co.th